การศึกษาไทย










นักเรียน นักศึกษา
หลายท่านคงรู้เรื่องระบอบ
การศึกษาไทยกันเป็นอย่างดี

ที่รู้นี่ หมายถึงรู้ว่าห่วยขนาดไหนนะครับ
คือว่า ห่วยยังไง

ลองดูแค่ มาตรฐานสิครับ
เอาแค่ในกรุงเทพ กับรร.ประจำจังหวัด
ยังเทียบกันไม่ได้เลย

ตั้งแต่ปล่อยเกรด ยันการสอนกาก ๆ
ในกรุงเทพ มีรร.ไหนมั้ยครับ
ได้ 4 ทั้งสายชั้น

ลองดูเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ใช้ GPAX กับ GPA เยอะมาก
เคยคิดมั้ยครับว่า รร.ที่เค้าต้อง
กดเกรดนักเรียน จะแย่มั้ยครับ

แล้วหลังจากนั้น
เราก็จะพบกับ มหาวิทยาลัย
หลายแห่ง ที่เปิดทั้งป.โทและป.เอก
ทั้่ง ๆ ที่ไม่มีคณาจารย์ที่มีคุณภาพ

ผมถึงไม่เคยแปลกใจว่า
ทำไมประเทศไทย
ถึงยังงมโข่งอยู่แบบนี้

วิกฤต (5)







จากที่ได้พูดไว้
เมื่อตอนที่แล้ว

ว่าจะพูดกันถึงโลกร้อน
ผมเลยจะมาเสนอวิธีลดโลกร้อน

เอาแบบที่ไม่ใช่
ประหยัดไฟ ใช้ถุงผ้า
รึอะไรเทือกนั้น

1.เปลี่ยนไปใช้พลังงานอย่างอื่น
นอกเหนือจากพลังงานฟอสซิล

ที่ผมบอกให้เปลี่ยนนี่ก็คือ
โรงไฟฟ้าถ่านหินนะครับ
ไม่ใช่รถ

เปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้
นิวเคลียร์ก็ได้ แต่ไม่รอ ITER
นะครับ รอไม่ไหวแน่ ตั้ง 50 ปี

2.ลดการใช้กระดาษ

กระดาษสร้างจากต้นไม้นะครับ อย่าลืม
ประหยัดกันหน่อย

3.ประท้วง อเมริกา จีน อินเดีย
และประเทศอุตสาหกรรมทั้งหลายแหล่

ประท้วงเรื่องอะไร
เรื่องที่มันไม่ลดการปล่อย
คาร์บอนไดออกไซด์ไงครับ

4.หันมาใช้ถ่านชาร์จครับ

เพราะว่าการกำจัดขยะจำพวกนี้
เปลืองพลังงานมากครับ

5.ให้เว็บเพจทุกเว็บใช้แบ็คกราวนด์
สีดำ

มันประหยัดนะครับ อย่าลืมครับ

ปล.จบล่ะครับ
ปอ.สำหรับปัญหาภาคใต้ ไม่เขียนนะครับ
เสี่ยงต่อความมั่นคง ส่วนเรื่องน้ำมัน
กับข้าว ไม่เขียนครับ คนเขียนมันเยอะแล้ว

วิกฤต (4)








ผมคิดอยู่หลายครั้งแล้วครับว่า
อะไรควรจะเป็นวิกฤต
ที่น่าจะพูดถึงก่อน

ระหว่าง น้ำมันแพง ข้าวแพง
และโลกร้อน

เลือกไม่ถูกครับ มันแย่พอกัน
น้ำมันจะไม่มีให้เราใช้ในอีก 50 ปี

แต่โลกร้อน จะฆ่าเราได้ใน 15-20ปี
ถ้าเรายังปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ในอัตรานี้

ส่วนข้าว อีก 5 ปี มันก็ฆ่าเราได้
ถ้ายังแพงขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้

ฮ่วย
สรุปก็ ช่างมันเถอะครับ
ยังไงก็ตาย

แต่ ความจริง
เราก็ควรจะแก้โลกร้อน
จะได้ปลูกพืชได้ดีขึ้น

แล้วหลังจากนั้น ก็ค่อย
คิดหาพลังงานแทนน้ำมัน

เอาเป็นว่า
จะพูดถึงโลกร้อนละกันครับ

มันคงจะทำให้เรารอดได้ง่ายที่สุด
แต่วันนี้ขี้เกียจ

ไว้ก่อนละกัน